“จุรินทร์ฯ” ท่องตลาดมหาชัยลุยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เบอร์ 5
เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 10 เมษายน 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายแทนคุณ (อี้) จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต กทม. เขต 13 ลาดพร้าว บึงกุ่ม และผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของสมุทรสาคร เบอร์ 5 ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง คือ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายชวพล วัฒนพรมงคล เขตเลือกตั้งที่ 2 นายธนวัฒน์ ทองโต และ เขตเลือกตั้งที่ 3 นายนิติรัฐ สุนทรวร รวมถึง นายภูดิส แก้วตระกูลโชติ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 53 ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ลงพื้นที่สมุทรสาครบริเวณตลาดสดมหาชัย เพื่อพบปะขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนพร้อมรับฟังปัญหาต่างๆ
โดยจุดแรกที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มุ่งหน้าไปเมื่อมาเยือนสมุทรสาครคือ การเข้ากราบสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาครและเสาหลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวจังหวัดสมุทรสาครให้ความเคารพนับถือ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยและความเป็นสิริมงคล จากนั้นก็มีตัวแทนภาคประชาชนมารอยื่นหนังสือให้กับ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องของต่างด้าวแย่งอาชีพสงวนของคนไทย โดยหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ก็อยากจะให้มีการผลักดันเป็นนโยบายที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับชาวสมุทรสาครอย่างเร่งด่วนเป็นลำดับแรกๆ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดถึงเรื่องแรงงานต่างด้าว ที่ได้รับหนังสือร้องเรียนจากภาคประชาชน ซึ่งพรรคไม่ปฏิเสธแรงงานต่างด้าวเพราะว่าแรงงานต่างด้าวเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและสมุทรสาคร เพราะว่าประเทศไทยก็ขาดแคลนแรงงาน แต่ว่าการเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าวจะต้องอยู่ในข้อจำกัดตามที่กฏหมายกำหนด ไม่แย่งอาชีพคนไทย เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆเดินหน้าต่อไปได้ และคนไทยมีอาชีพทำกิน
นอกจากนี้นายจุรินทร์ฯ และตัวแทนพรรคฯ ยังได้พูดถึงเรื่องของการประกันรายได้เกษตรกรและการช่วยพยุงราคาสินค้าทางการเกษตร เปิดช่องทางการส่งออกทางเรือและทางอากาศควบคู่ไปกับการขนส่งทางบก การออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปีให้กับประชาชน การออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้ผู้ทำกินในที่ดินของภาครัฐ และที่สำคัญ คือ อยากให้ประชาชนได้นึกถึงภาพลักษณ์ของความซื่อสัตย์ ที่พรรคประชาธิปัตย์รักษาเรื่องนี้มาตลอด รวมทั้งตนเองที่เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 8 ก็ยังยืนหยัดเรื่องนี้มาตลอด และพร้อมจะพิสูจน์ให้คนเห็นว่าในยามที่มีอำนาจการตัดสินใจ มีโอกาสทำงาน ก็จะไม่โกง เพราะรู้ว่าทางรอดประเทศไทยถัดจากนี้มีทางเดียวคือประชาธิปไตยเต็มใบ ที่ไม่ใช่ครึ่งใบ เพราะถ้าได้คนโกงมาบริหารประเทศ บ้านเมืองก็ไปไม่รอดอย่างแน่นอน