ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ที่ใช้เป็นโกดังเก็บแผงอิเล็กทรอนิกส์เก่า
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 21 กันยายน 2566 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของที่อาคารพาณิชย์ในพื้นที่ตำบลดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงแจ้งให้ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เหล็กกล้า รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ไปตรวจสอบพร้อมกับประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลดอนไก่ดี ตลอดจนรถน้ำดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ
โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ตั้งอยู่เลขที่ 89/19 และ 89/20 หมู่ที่ 5 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาตามช่องลมชั้นบนสุด ซึ่งเป็นฝ้าเพดาน กระจายไปทั่วบริเวณ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ส่วนบริเวณต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นล่างของตัวอาคาร ซึ่งภายในมีวัตถุจำพวกชิ้นส่วนแผงอิเล็กทรอนิกส์เก่าของโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ อะไหล่และแบตเตอรี่เก่าๆ ของโทรศัพท์มือถือ เก็บกองไว้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้น้ำฉีดสกัดนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถทำให้เพลิงสงบและกลุ่มควันเบาบางลงได้ในที่สุด เบื้องต้นพบความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวอาคารที่ถูกไฟไหม้จนมีรอยร้าว รถยกขนาดเล็ก 1 คัน ถูกไฟไหม้บางส่วน และวัตถุที่เก็บกองไว้ภายในเสียหาย
จากการสอบถามชาวบ้านบอกว่า อาคารพาณิชย์ที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เป็นอาคารให้เช่า โดยอาคารที่เกิดเหตุทางผู้เช่าเพิ่งจะมาขอเช่าได้เมื่อไม่มานานนี้ แต่ไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ ซึ่งตอนเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงมืดแล้ว ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงอยู่แต่ในห้องของตัวเอง กระทั่งได้กลิ่นเหม็นและเห็นมีควันดำพวยพุ่งออกมาจากชั้นที่ 1 และ ชั้นที่ 2 ที่ใช้เป็นโกดังเก็บวัสดุพวกแผงวงจรคอมพิวเตอร์เก่าๆ และชิ้นส่วนของอะไหล่โทรศัพท์มือถือ จึงได้ช่วยกันรีบแจ้งให้ทางผู้ใหญ่บ้านและ เทศบาลตำบลดอนไก่ดี ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถน้ำดับเพลิงเข้ามาระงับเหตุ
ขณะที่คนงานคนหนึ่งเล่าว่า เหตุเพลิงไหม้นี้เกิดขึ้นจากชั้นล่างด้านในของตัวอาคาร ตอนนั้นมีแฟนของเจ้าของนั่งอยู่ ซึ่งพอเกิดเพลิงไหม้ขึ้นก็รีบไปหาถังดับเพลิงมาฉีดแต่เอาไม่อยู่ จากนั้นก็หายไปเลย โดยภายในเป็นที่เก็บพวกแผงวงจรอิเล็กทรอนิคส์โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์เก่าๆ และอะไหล่โทรศัพท์มือถือเก่าๆ เพื่อนำมาแยกชิ้นส่วน เอาทองแดง และพลาสติกไปหลอมรีไซเคิลใหม่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกผู้เช่ามาทำการสอบปากคำ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ คาดหลายแสนบาท