นอภ.เมืองสมุทรสาคร ย้ำชัดปัญหาอาหารกลางวัน และ บุคลากรภายใน ต้องยุติ ดราม่าโซเชียลต้องหมดไป
เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 ที่โรงเรียนเทพนรรัตน์ ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการจัดประชุมผู้ปกครองเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน และปัญหาเรื่องอาหารกลางวัน ตามที่ปรากฏเผยแพร่ในโลกโซเชียลอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงโรงเรียน และจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงที่สำคัญคือ มีผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจของเด็กๆ นักเรียน ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวให้ยุติลงให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งในวันนี้ก็มีร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร เป็นประธานในการประชุม พร้อมกันนี้ยังมีผู้แทนจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าอาวาสวัดเทพนรรัตน์,นายกเทศมนตรีตำบลนาดี, ปลัดเทศบาลตำบลนาดี,คณะกรรมการสถานศึกษา,รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร,กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน, ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองสมุทรสาคร,ผอ.โรงเรียนเทพนรรัตน์ คณะครู และผู้ปกครองเข้าร่วมจำนวนมาก
ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร บอกว่า วันนี้ไม่ใช่การมาเพื่จะรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะปัญหาต่างๆ นั้น ได้กระจายผ่านทางโลกโซเชียลอย่างที่เห็นเป็นข่าวกันอยู่แล้ว แต่ที่ขอให้ผู้ปกครองนักเรียนและทุกฝ่ายมาร่วมประชุมกันในวันนี้ก็เพื่อการแก้ไขปัญหาให้จบโดยเร็วที่สุดและต้องจบภายในโรงเรียนเพราะว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบนั่นก็คือบุตรหลานของทุกๆคน ซึ่งตอนนี้ไม่สามารถที่จะรอช้าในการแก้ปัญหาได้เนื่องจากปัญหานี้ได้เกิดมานาน และเป็นข่าวในโลกโซเชียลจนทำให้เสียชื่อโรงเรียน และเสียชื่อจังหวัด ส่วนปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขก่อนมีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.ปัญหาเกี่ยวกับอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ที่มีดราม่าไม่จบสิ้น และ 2. ปัญหาเกี่ยวกับบุคลากรภายในที่มีกระแสความขัดแย้งไม่ว่าจะเกิดจากปมใด รวมถึงการขาดแคลนครูหรือบุคลากรทางการศึกษา ที่มีไม่เพียงพอต่อการสอนหนังสือนักเรียนในแต่ละระดับชั้น ทำให้เด็กเกิดการด้อยคุณภาพทางการศึกษาตามที่ผู้ปกครองได้แจ้งเรื่องร้องเรียนนั้น ทุกเรื่องต้องจบให้ได้
สำหรับในเรื่องอาหารกลางวันเด็กนั้น นายอำเภอได้ให้ข้อแนะนำว่า ทางโรงเรียน อย่าเอาโปรแกรมไทยสคูลลั้น และงบประมาณคนละ 22 บาทมาเป็นจำเลย ซึ่งถ้าเอาตรงส่วนนี้มาเป็นที่ตั้งของปัญหาจนทำให้การทำอาหารไม่มีคุณภาพ ผู้รับผิดชอบในการทำหรือแม่ครัวก็ต้องอออกไป เพราะโรงเรียนแห่งอื่นๆ สามารถทำได้ดีกว่านี้ในงบและระบบเดียวกัน ทั้งนี้ขอให้คำนึงถึงโภชนาการที่ดีเพื่อเด็กเป็นหลัก โดยสิ่งที่ต้องคำนึงคือ อาหารต้องดี มีคุณภาพ ถูกหลักอนามัย ไม่อิ่มต้องเพิ่มได้ หากเด็กลืมอุปกรณ์ โรงเรียนต้องเอื้อเฟื้อดูแล ห้ามให้เด็กซื้อ เพราะพวกเขาคือลูกหลานของเราที่ต้องดูแลกันจนจบการศึกษาระบบภาคบังคับ และหากอาหารเมนูไหนที่ไม่เหมาะ เด็กรับประทานไม่ได้ ต้องปรับปรุง และต้องมีสารอาหารให้ครบถ้วน ซึ่งถ้าหากเด็กไม่ทาน ต้องมาช่วยกันคิดว่าเป็นเพราะอะไร และต้องหาวิธีแก้ไข จูงใจให้เด็กรับประทานให้มากขึ้น ให้เด็กๆ รู้สึกอยากรับประทานด้วยคุณภาพ ความอร่อยที่แม่ครัวต้องตั้งใจทำ โดยโปรแกรมไทยสคูลลั้นให้ยืดหยุ่นให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับเด็กมากที่สุด และนับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป อาหารกลางวันเด็กโรงเรียนเทพนรรัตน์ ต้องดี มีคุณภาพ ปริมาณเหมาะสมกับเด็กทุกช่วงวัย สะอาด อิ่มโดยไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม และบุคลากรต้องมีจิตใจดี เอื้ออาทรกับเด็ก ในโรงเรียนต้องปลอดอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ถ้าทำไม่ได้ต้องพิจารณาตัวเอง และให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ไม่ต้องทำหน้าที่อื่น
นายอำเภอเมืองยังย้ำอีกด้ววยว่า ปัญหานี้ต้องจบที่โรงเรียน วันนี้ ถ้าทำไม่ได้ ต้องมีผู้รับผิดชอบ และต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง โรงเรียนต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ต้องไม่มีข่าวด้านลบเกิดขึ้นอีก ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน ทั้งผู้บริหาร ครู บุคลากรทุกคนในโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และคนรับผิดชอบด้านการประกอบอาหารสำหรับเด็กนักเรียน (แม่ครัว)
ส่วนเรื่องการบริหารงานบุคคลภายในโรงเรียน ซึ่งมี ผอ.เป็นผู้บริหารสูงสุด มีหน้าที่ทำปัญหาใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก แก้เรื่องเล็กให้หมดไป ไม่ใช่สุมปัญหาไว้ และทุกคนห้ามทำเกินหน้าที่ อย่าเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาบริหารจัดการแทน,อย่าให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายใน ซึ่งมีจุดยืนคือ คุณภาพของเด็ก ชื่อเสียงโรงเรียน และชื่อเสียงจังหวัดสมุทรสาคร บุคคลากรต้องมีความเมตตา กรุณา และมีความซื่อสัตย์ต่อการบริหารงาน และต้องสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในโรงเรียน จะต้องไม่มีใครอึดอัดใจจนต้องลาออกอีก ต้องหาให้พบว่าปัญหาเกิดขึ้นที่ใคร และบุคคลนั้นต้องปรับตัว เพื่อให้โรงเรียนก้าวหน้า พัฒนา ที่จะต้องบริหารให้เกิดความสงบสุขและจบภายในโรงเรียน
ขณะที่ทางด้านของผู้ปกครองที่ได้มีโอกาสซักถาม ชี้แจงปัญหา ก็ได้มีตัวแทนผู้ปกครอง ชี้แจงว่า การที่ ผอ.โรงเรียนเทพนรรัตน์ บอกว่าโดนกลั่นแกล้ง จึงอยากถามว่า คนกลั่นแกล้งจะได้อะไรจากสิ่งนี้ ซึ่งตนเองมีลูกที่ได้รับผลกระทบ จนต้องย้ายลูกไปเรียนที่อื่น ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม และเด็กต้องปรับตัวกับที่ใหม่, เรื่องน้ำดื่มไม่สะอาด เรื่องห้องน้ำสกปรก และเรื่องครูไม่เพียงพอ ปัจจุบันมีเด็กนักเรียน 285 คน ครู 10 คน ผอ.1 คน ส่วนที่ครูไม่เพียงพอจนต้องมีการจัดการเรียนการสอนแบบควบชั้นเรียนนั้น เหตุก็เพราะครูลาออกไปหลายคน ผู้ปกครองห่วงว่าเด็กจะเรียนไม่ทันและขาดคุณภาพทางการศึกษา ซึ่งนายอำเภอเมืองได้มอบหมายให้ รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร หาแนวทางแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว
ทาง ดร.ภัทรนันฐ์ ไหลงาม รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ชี้แจงว่า ตนเองทำได้เพียงมารับฟังข้อมูลและนำไปแจ้งต่อ ผอ.เขตฯ ที่มีอำนาจรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งเรื่องครูไม่เพียงพอนั้น ขณะที่ทางสำนักงานเขตฯ กำลังดำเนินการสอบครูผู้ช่วยเพิ่ม ส่วนกระบวนการก็อยู่ในระหว่างการสอบสัมภาษณ์ เมื่อผลออกมาแล้วก็อาจได้มาเพิ่มให้แก่ที่นี่จำนวน 6 ตำแหน่ง
ส่วนนายสุมิตร แผนทัด นายกเทศมนตรีตำบลนาดี บอกว่า เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ตนได้สั่งการให้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลเรื่องอาหารกลางวันเด็กทั้งตรวจสอบและชิมรสชาติที่โรงเรียนเทพนรรัตน์ทุกวัน พร้อมบันทึกภาพข้อมูลแจ้งไปยังตนเอง และต้องขอโทษผู้ปกครอง ที่ตนเองมาแก้ปัญหาให้ช้า แต่หลังจากนี้จะช่วยดูแลที่นี่ให้กลับมามีชื่อเสียง และต้องไม่มีปัญหาเรื่องอาหารเกิดขึ้นอีก โดยตนเองมองว่า เมื่อมีปัญหา ต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้น ส่วนปัญหาเรื่องครูไม่เพียงพอ ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องแก้ปัญหาให้ได้
ท้ายที่สุดนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ยังได้บอกย้ำด้วยว่า วันนี้เรื่องอาหารกลางวันเด็กต้องจบ เรื่องการบริหารงานในโรงเรียนต้องจบ และพรุ่งนี้ต้องเห็นภาพเชิงบวกของโรงเรียนเทพนรรัตน์ในทุกด้าน และต้องดีขึ้นในทุกๆ วัน