นอภ.กระทุ่มแบน จับมือ อุตสาหกรรมจังหวัด เรียกโรงงานหลอมโลหะและชาวบ้านเคลียร์ปัญหากลิ่นเหม็นหมักหมมนานหลายปี
จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลแคราย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับ บริษัท เซี๊ยะ จื้อ เอ็นเตอร์ไพรส์ จํากัด ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมประกอบกิจการหล่อและกลึงโลหะทุกชนิด ได้รวมตัวร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกระทุ่มแบน เนื่องจากได้รับผลกระทบทางด้านกลิ่นเหม็น เขม่าควันฟุ้งกระจาย และเสียงดังรบกวนจากโรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าวมานานหลายปี ขณะที่โรงงานก็ไม่มีการปรับปรุงแก้ไขอย่างจริงจังและจริงใจ จึงส่งผลให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบทางกลิ่นเหม็นจนทนไม่ไหว และต้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขโดยใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดนั้น
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 05 เมษายน 2566 ที่เทศบาลตำบลแคราย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมด้วย นายพิทักษ์ บุญคงแก้ว อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร (ทสจ.) นายกและเจ้าหน้าที่ ทต.แคราย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนสถานประกอบการ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ก็ได้มาประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับมีการออกคำสั่งบังคับใช้ต่อไป
ทั้งจากผลการรายงานการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการดังกล่าวโดยกรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลแคราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็พบว่า โรงงานของบริษัท เจี๊ยะ จื้อ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ประเภทกิจการหล่อและกลึงโลหะทุกชนิด แต่ขณะเข้าตรวจสอบโรงงานฯ หยุดประกอบกิจการชั่วคราว หรือ มากกว่าเพื่อบำรุงรักษาเตาหลอม,มีการวางกองและการตากของวัตถุดิบบริเวณภายนอกอาคารโดยไม่มีวัสดุปิดคลุม หากมีฝนตกอาจชะล้างวัตถุดิบดังกล่าวไหลออกสู่ภายนอกโรงงานได้,ปัญหากลิ่นเหม็นจากกองตะกรันทองแดงบริเวณด้านหลังโรงงาน และมีการสกัดตะกรัน ทองแดงให้มีขนาดเล็กก่อนเข้าสู่เตาหลอมกองอยู่ภายนอกอาคาร อีกทั้งตัวอาคารโรงงานมีลักษณะปิดไม่มิดชิดมีการชำรุดของด้านข้างอาคาร ด้านหลังเปิดโล่ง,ระบบบำบัดอากาศเสียแบบ Bag House ภายในมีถุงกรองบางส่วนชำรุดฉีกขาด,มีเสียงดังจากรถโฟล์คลิฟท์สำหรับยกของ ซึ่งทางคณะผู้เข้าตรวจก็ได้ให้แนวทางการปรับปรุงแก้ไข พร้อมกับกำชับเรื่องของการปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน กล่าวว่า โรงงานนี้ประกอบกิจการหลอมโลหะ จนชาวบ้านร้องเรียนว่าได้รับกลิ่นเหม็น แสบจมูก มีปัญหาทางเดินหายใจ จึงได้มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกระทุ่มแบน ทางอำเภอก็ได้ประสานกับอุตสาหกรรมจังหวัด ทสจ. และเทศบาลตำบลแคราย ลงไปตรวจสอบซึ่งปัญหาดังกล่าวได้มีการร้องเรียนมานานหลายปีแล้ว และที่ผ่านมาก็ได้มีการออกคำสั่งตามกฎหมาย ทั้งปิดโรงงาน สั่งให้หยุดประกอบกิจการ ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบังคับใช้กฎหมาย และมีการปรับปรุงแล้วก็อนุญาตให้เปิดใช้ใหม่ แต่ก็ยังเป็นปัญหาที่เป็นวงจรเหมือนเดิม กระทั่งวันนี้ผลกระทบยังคงอยู่กับพี่น้องประชาชน จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาเพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้หมดไปอย่างเด็ดขาด ซึ่งข้อตกลงล่าสุดคือ ทางบริษัทจะต้องปฏิบัติตามหลักวิศวกรในการดำเนินการเรื่องของการควบคุมกลิ่น และความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบโดยเด็ดขาด หากทางบริษัทฯ ยังเพิกเฉยหรือทำไม่ได้มาตรฐานที่กำหนด ส่งผลทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบอีกครั้ง ก็จะนำเรื่องนี้ส่งไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อออกคำสั่งโดยเด็ดขาดต่อไป
ด้านนายพิทักษ์ บุญคงแก้ว อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ก็กล่าวด้วยว่า ในสมุทรสาครมีโรงงานประเภทนี้อยู่ 100 กว่าโรงงาน ส่วนใหญ่จะเป็นอลูมิเนียม โดยที่ถูกร้องเรียนก็มีอยู่บ้าง ซึ่งทางอุตสาหกรรมก็ได้เข้าไปกำกับดูแลจนได้รับการปรับปรุงแก้ไขอย่างเป็นระบบ ส่วนเรื่องร้องเรียนก็อาจมีเกี่ยวกับมลพิษที่เกินคาด ซึ่งก็ได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือปัญหาที่เกิดจากการปลดปล่อยปละละเลยของสถานประกอบการในการทำงาน ทำให้เกิดการผิดพลาดในการทำงานได้ สำหรับกรณีนี้ยึดเอานโยบายของปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ว่าจะทำอย่างไรให้โรงงานที่เกิดขึ้นแล้วนั้น สามารถอยู่ร่วมกับประชาชนได้ นั่นคือ โรงงานกับชุมชนต้องอยู่ร่วมกันได้ ไม่ให้เกิดการต่อต้านกัน ส่วนแนวทางการแก้ไขในกรณีนี้ก็มีอยู่ด้วยกัน 2 แนวทางที่ต้องทำคู่ขนานกันไป คือ 1.การกำกับดูแลให้เป็นไปตามระบบตามเงื่อนไขในการอนุญาตตามเกณฑ์มาตรฐานในการปล่อยมลพิษต่างๆ โดยกำกับตามอำนาจหน้าที่ตาม พรบ.ที่กำหนด และ 2 คือ การสร้างความรู้ความเข้าใจและการอยู่ร่วมกัน อะไรที่โรงงานกับชุมชนไม่เข้าใจกัน ก็สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังต้องมีการใช้หลักธรรมาภิบาลโดยให้โรงงานเปิดพื้นที่ให้พี่น้องประชาชนเข้าไปตรวจสอบได้หรือเห็นการทำงานของโรงงาน ซึ่งกรณีนี้ก็เชื่อมั่นว่า คงจะต้องใช้ระยะเวลาสักระยะหนึ่งก็จะสามารถทำให้ปัญหาที่เป็นอยู่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน