ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร สั่งชุดปฏิบัติการพิเศษ ลุยกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าย่านใจกลางเมืองมหาชัย มูลค่ากว่าแสนบาท
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 12 มีนาคม 2567 ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบหมายให้ นายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร,นายปฐม เอมโอษฐ์ ป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษปกครองจังหวัดสมุทรสาคร แถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีของกลางเป็นอุปกรณ์สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนบาท
นายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ด้วยทางปกครองจังหวัดสมุทรสาครได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีผู้เปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า อยู่ในย่านใจกลางเมืองมหาชัย ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้สั่งชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ซึ่งเป็นการสนธิกำลังกันของเจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัด ปกครองอำเภอ ป้องกันจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกองร้อยบังคับการและบริการ ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ชี้เป้ามา
ทั้งนี้ทางชุดปฏิบัติการพิเศษฯ จึงได้วางแผนล่อซื้อจับกุมร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์การค้าแลนด์มาร์ค มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ชื่อร้านควันหอม มีลักษณะเป็นตึกแถวประตูทางเข้าเป็นกระจกปิดด้วยสติ๊กเกอร์ทึบลายดอกไม้ ภายในร้านมีบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์วางอยู่ในตู้กระจกใสตั้งอยู่บริเวณกลางร้านและพบผู้หญิงจำนวน 2 ราย ยืนอยู่หลังตู้กระจก ทั้งนี้สายลับจึงทำการขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้า และเมื่อได้บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางชุดปฏิบัติการพิเศษฯ จึงได้เข้าตรวจสอบพร้อมกับควบคุมตัว น.ส.นิละมัย กลิ่นทวี กับ น.ส. นีรนุช วีสูงเนิน พนักงานขาย พร้อมด้วย ของกลางที่มีทั้งน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนมาก มาทำบันทึกการจับกุมก่อนส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายชัยวัฒน์ฯ กล่าวอีกว่า สำหรับสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านี้เป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย ห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่าย ห้ามครอบครอง รวมถึงห้ามสูบ สำหรับในส่วนของผู้จำหน่ายนั้น จะมีความผิดต้องโทษตามข้อกล่าวหา “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557” และ “ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ส่วนจะมีข้อหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันทำการตรวจสอบ หากพบความผิดเพิ่มเติมก็จะได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้จำหน่ายเพิ่มเติม
นายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังได้กล่าวย้ำทิ้งท้ายด้วยว่า การจับกุมผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าของทางจังหวัดสมุทรสาครนั้น เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการและขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม พร้อมกันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังได้สั่งการให้เรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันปราบปรามให้หมดสิ้นไป เพราะถือเป็นภัยที่ร้ายแรงต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยจะเริ่มจากผู้ที่จำหน่ายในทั้ง 3 อำเภอก่อน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการจับกุมผู้จำหน่ายฯ ไปแล้วหลายราย และขั้นต่อไปก็จะขยายผลไปยังผู้ที่ครอบครองและมีไว้เพื่อสูบ